การประเมินภาวะสุขภาพชุมชน หมายถึง
การวิจัยปัญหาด้านสุขภาพของประชาชนในชุมชน
เพื่อดูว่าสถานภาพทางสุขอนามัยอยู่ในระดับใดและมีปัญหาใดบ้างที่ต้องปรับ
ปรุง
พฤติกรรมเสี่ยงของชุมชน คือ พฤติกรรมใดๆ ของคนในชุมชน เมื่อปฏิบัติแล้วก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ นำไปสู่โรคภัยและอันตรายถึงชีวิต
สิ่งที่ประเมินได้แก่
1.ข้อมูลลักษณะประชากร
2.อัตราการเกิด/การตาย
3.อัตราการเจ็บป่วย
4.ข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคม
5.สภาพแวดล้อม
6.การดำเนินชีวิต
ข้อ
ดีของการประเมินดังกล่าวคือหากเกิดปัญหาสุขภาพขึ้นในชมชน
ย่อมสามารถหาวิธีการป้้องกันและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ยังเป็นการรักษาภาวะสุขภาพของคนในชุมชนให้ดีต่อไปอีกด้วย
การประเมินภาวะสุขภาพของชุนชนการประเมินภาวะสุขภาพของชุนชน เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลของชุนชน มีองค์ประกอบ 3 ด้านที่สำคัญ ดังนี้
1.คน เป็นตัวบ่งชี้สุขภาพอนามัยของชุนชนโดยรวม แสดงให้เห็นถึงปัญหาสุขภาพ การเจ็บป่วย และความต้องการด้านสุขภาพ ประกอบไปด้วยด้านต่างๆ ดังนี้
- ลักษณะประชากรและสถานภาพต่างๆของประชารในชุมชน นำมาทำนายภาวะสุขภาพของชุมชนได้
- ข้อมูลบ่งชี้สภาวะสุขภาพอนามัยของประชากรในชุมชน
- ข้อมูลเกี่ยวกับวิถีชีวิต ความรู้ เจตคติ และ พฤติกรรมสุขภาพ
2. สิ่งแวดล้อมและลักษณะทั่วไปของชุมชน สามารถ บอกภาวะสุขภาพและระดับสุขภาพของชุมชน นำมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลทางประชากรของชุมชนก็จะพบสาเหตุของปัญหาสุขภาพใน ชุมชน โดยข้อมูลทางด้านสิ่งแวดล้อมลักษณะทั่วไปที่ นำมาศึกษา ได้ แก่ สภาพพื้นที่ สถานที่ตั้ง ภูมิประเทศ ความสะอาด ความมั่นคง ความเป็นระเบียบของชุมชน รวมทั้งสภาพของมลภาวะและสารพิษ ซึ่งสามารถเป็นตัวทำนายภาวะสุขภาพของชุมชนได้
3. ระบบสังคมและการบริการด้านสาธารณสุข เป็นตัวบ่งชี้สุขภาพโดยรวมของชุมชน เช่น รูปแบบการปกครอง ผู้นำชุมชน กระบวนการตัดสินใจของบุคคลในชุมชน เป็นต้น
การประเมินพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพของชุมชนพฤติกรรม เป็นการกระทำหรือการแสดงออกของบุคคล ถ้าบุคคลมีพฤติกรรมทางสุขภาพไม่ถูกต้องโดยเฉพาะพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาซึ่ง หมายถึงพฤติกรรมที่บุคคลในชุมชนปฏิบัติ อาจนำไปสู่การเกิดอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และสุขภาพของชุมชนโดยรวม
การ ประเมินพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพของชุมชน ทำให้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับปัญหาสุขภาพ รู้ถึงสาเหตุของพฤติกรรมเสี่ยง ทำให้ง่ายต่อการแก้ไขปัญหา
พฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นปัญหาต่อสุขภาพของชุนชน
1. พฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การฝ่าฝืนกฎจราจรของผู้ขับขี่
2. พฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดสารเสพติด เช่นชุมชนเป็นแหล่งแพร่ระบาดของยาเสพติด
3. พฤติกรรมเสี่ยงทางเพศกับการเกิดโรคเอดส์ เช่น พฤติกรรมการสำส่อนทางเพศ ไม่สวมถุงยางเมื่อมีเพศสัมพันธ์
4. พฤติกรรมเสี่ยงจากการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาสม และการขาดการออกกำลังกาย
5. พฤติกรรมเสี่ยงต่อความเครียดและปัญหาความรุนแรง
8.3 กลวิธีลดความเสี่ยงและการสร้างเสริมสุขภาพของตนเอง ชุมชน และสังคม
-นำหลัก 6 อ. ของกระทรวงสาธารณสุขมาประยุกต์ใช้ในการดูแลสุขภาพดังนี้
1. ออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที และควรเลือกออกกำลังายให้เหมาะสมกับเพศและวัย
2.อาหาร ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เพียงพอต่อร่างกาย
3.อารมณ์ หมั่นดูแล และจัดการกับอารมณ์ของตนเองให้อยู่ในภาวะปกติเสมอ เช่น นอนให้เพียงพอ นั่งสมาธิ เป็นต้น ถ้าอารมณ์ดีร่างกายก็จะหลั่งสารความสุขออกมา มีผลดีต่อร่างกาย
4.อนามัย สิ่งแวดล้อม คนในชุมชนควรดูแลสิ่งแวดล้อมให้มีความสะอาด ปลอดภัย และน่าอยู่อาศัย ถ้าสิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นพิษก็ยากที่จะมีสุขภาพที่ดี
5.อโรค ยา คือการที่ไม่มีโรคมาเบียดเบียน การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดปัญหาการเกิด โรคและการเจ็บป่วยต่างๆ เช่น ไม่ดื่มสุรา เสพยาเสพติด สำส่อนทางเพศ รับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ เป็นต้น
6.อบายมุข หลีกเลี่ยงอบายมุขทุกชนิด
อ้างอิงจาก
ดร.สมหมาย แตงสกุลและดร.ธาดา วิมลวัตรเวที. สุขศึกษาและพลศึกษาม.6. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์วัฒนาพานิช.
1.
ข้อใดไม่จัดว่าเป็นการวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัว
ก. ดูแลเรื่องการพักผ่อน ข. ดูแลเรื่องการรักษาพยาบาล
ค. ดูแลเรื่องการประกอบอาชีพ ง. ดูแลเรื่องอาหารในแต่ละวัน
2.
การดูแลอาหารในแต่ละวันทำได้อย่างไร
ก. จัดให้ครบทุกมื้อ ข. จัดให้ถูกหลักโภชนาการ
ค. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6 - 8 แก้ว ง. ทุกข้อที่กล่าวมา
3. ข้อใดเป็นการวางแผนดูแลสุขภาพ
ก. วันอาทิตย์จะต้องไปดูภาพยนตร์กับวิภา
ข. หาเสื้อผ้าสวยๆ
ไปงานปาร์ตี้กับเพื่อนๆ
ค. ทุกวันอาทิตย์เก็บขยะรอบบริเวณบ้าน
ง. กางเกงยีนส์ต้องไม่ซัก
เพราะทำให้สีซีดลง
4.
ในแต่ละวันควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละกี่แก้ว
ก. 4 – 6 แก้ว ข. 6 – 8 แก้ว
ค. 8 – 10 แก้ว ง. 10 – 12 แก้ว
5.
การออกกำลังกายควรปฏิบัติอย่างน้อยครั้งละกี่นาทีและสัปดาห์ละไม่น้อยกว่ากี่วัน
ก. 30 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน ข. 45 นาที สัปดาห์ละ 3 วัน
ค. 30 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน ง. 45 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน
6.
เด็กควรนอนอย่างน้อยวันละกี่ชั่วโมง
ก. 5 – 7 ชั่วโมง ข. 6 – 8 ชั่วโมง
ค. 7 – 9 ชั่วโมง ง. 8 – 10 ชั่วโมง
7.
ในแต่ละปีบุคคลในบ้านควรได้รับการตรวจร่างกายอย่างน้อยกี่ครั้ง
ก. 1 ครั้ง
/ ปี ข. 2 ครั้ง / ปี ค. 3 ครั้ง / ปี ง. 4 ครั้ง
/ ปี
8.
ปัจจัยใดมีการเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์มากที่สุด
ก. การจับคู่ ข. วีซีดีลามก
ค. สื่อสารมวลชน ง. การแต่งกายล่อแหลม
9.
ภัยของหญิงสาวที่ชอบเที่ยวกลางคืน ข้อใดร้ายแรงที่สุด
ก. ถูกหลอกไปข่มขืน ข. ถูกหลอกไปเสพสารเสพติด
ค. ถูกฉุดขึ้นรถแล้วพาไปข่มขืน ง. ถูกฉุดไปในที่เปลี่ยว ข่มขืนแล้วฆ่าทิ้ง
10.
สาเหตุสำคัญที่วัยรุ่นชายหญิงจับคู่เป็นแฟนกันคือข้อใด
ก. ทำตามๆ กัน ข. สื่อต่างๆ ชี้นำ
ค. เพื่อหาประสบการณ์ ง. เป็นความต้องการทางด้านร่างกายและจิตใจ
11.
พฤติกรรมเสี่ยงในข้อใดมีความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์มากที่สุด
ก. สนใจเรื่องเพศมาก ข. มีความมักมากในกาม
ค. ชอบถูกเนื้อต้องตัวเพศตรงข้าม ง. เคยมีประสบการณ์ทางเพศมาแล้ว
12.
ความผิดหวังในความรักข้อใดมีโอกาสก่อให้เกิดความรุนแรงได้
ก. ความหึงหวง ข. พ่อแม่กีดกัน
ค. รักเขาข้างเดียว ง. แฟนไปคบแฟนใหม่
13.
เมื่อถูกปฏิเสธความรักควรทำอย่างไร
ก. ขู่บังคับ ข. เลิกคบเด็ดขาด
ค. ร้องไห้เสียใจให้พอ ง. ตัดใจและทำจิตใจให้สบาย
14.
ข้อใดมิใช่ความกดดันทางเพศ
ก. ถูกข่มขืน ข. เต็มใจมีเพศสัมพันธ์
ค. ถูกข่มขู่ให้มีเพศสัมพันธ์ ง. ถูกล่อลวงไปขายบริการทางเพศ
15.
ความสนใจในรูป กลิ่น เสียง และการสัมผัสของเพศตรงข้ามมากเป็นพิเศษตรงกับข้อใด
ก. ความใคร่ ข. ความรัก
ค. ความพึงพอใจ ง. ความมักมากในกาม
16.
ความรักเป็นความสวยงาม ความพอใจ ความอบอุ่น ความหวานซึ้ง เป็นมุมมองความรักของใคร
ก. ผู้ชาย ข. ผู้หญิง ค. กระเทย ง. ทอมหรือดี้
17.
ข้อใดเป็นค่านิยมในเรื่องเพศที่ไม่เหมาะสม
ก. เรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติของทุกคน
ข. ทุกคนมีสิทธิและมีความรับผิดชอบในการดำเนินวิถีชีวิตทางเพศของตน
ค. ความสัมพันธ์ทางเพศก่อให้เกิดความกดดัน ข่มขู่ หรือแสวงหาประโยชน์
ง. ความสัมพันธ์ทางเพศที่เกิดขึ้นเมื่อตนเองยังไม่พร้อมย่อมมีผลกระทบตามมา
18.
การปรับตัวทางเพศสำหรับคนวัยใดสำคัญที่สุด
ก. วัยเด็ก ข. วัยรุ่น ค. วัยทอง ง. วัยผู้ใหญ่
19.
สถานการณ์ใดเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์มากที่สุด
ก. กลับบ้านดึก ข. เดินในที่เปลี่ยว
ค. อยู่ในบ้านที่มีญาติผู้ชาย ง. อยู่กับแฟนสองต่อสองในหอพัก
20.
การป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากการถูกข่มขืนข้อใดดีที่สุด
ก. แต่งตัวให้มิดชิด ข. หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย
ค. พกพาอาวุธติดตัว ง. ถ้าจำเป็นต้องเดินในที่เปลี่ยวควรระมัดระวังตัวให้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น